OLSC Thailand Travel Club |
---|
ASIA TROPHY 2017 |
||||||||||||||||||||||||||||||
ข่าวที่น่าดีใจในวันนั้นก่อนที่การฟาดแข้งปจะเริ่มต้นขึ้นก็คือ การเซ็นต์สัญญาคว้าตัวแอนดี้ โรเบิร์ตสั้น แบ๊คซ้ายคนใหม่มาร่วมทีม ดังนั้น กัปตันทีม เจมส์ มิลเนอร์ ยังคงต้องทำหน้าที่แบ๊คซ้ายไปก่อน และ ได้นำลูกทีมเดินลงสนามโดยมี โอริกิ เฟอร์มิโน่ และ สมาชิกใหม่อย่าง โม ซาลาห์ ในแผงหน้าจีนี่ ที่คุมตรงกลาง และ มีลาลาน่า กับ คูทิญโญ่ โลดแล่น อยู่แถบริมเส้นส่วนแผงหลังอีก 3 คนคือ เทร้นท์ มาติป และ ลอฟเร่น โดยมี คาริอุส ยืนเฝ้าเสา ซึ่งก็ถือว่าเจอร์เก้น คล็อปป์ ได้จัดเอาชุดใหญ่ลงสนามซึ่งก็ถูกใจเหล่าสาวกที่อยู่ใน ฮ่องกง สเตเดี้ยม แมตช์นัดชิงฯ เริ่มต้นด้วยการที่เราเป็นฝ่ายเดินเกมบุก หลังจากเสียประตูแรกไป เรายังคงเดินหน้าครองบอลและเปิดเกมบุก โดยอาศัยการทำชิ่ง และ ความว่องไวของผู้เล่นในการฉีกหนีตัวประกบ ซึ่งเพียงแค่ 8 นาที ฟีลิปเป้ คูทิญโญ่ ก็สามารถปลดล็อคกองหลังจิ้งจอกสยาม ด้วยการจ่างที่เฉียบคม เปิดทางให้กับ โม ซาล่าห์ เข้าไปทำประตูตีเสมอได้สำเร็จหลังจากเปิดบอลสวยๆ ให้กับ โม ซาล่าห์ ทำประตูตีเสมอได้ คูทิญโญ่ เองก็สบโอกาสในนาทีที่ 44 เมื่อเขาเลี้ยงบอลเลาะเข้ามาจากริมเส้นฝั่งซ้ายไปบริเวณหน้ากรอบเขตโทษแล้วปั่นลูกเข้าไปตุงตาข่ายอย่างสวยงามพร้อมกับเปลี่ยนสกอร์เป็นขึ้นนำ 2 ประตู ต่อ 1 ซึ่งก็เป็น สกอร์ เมื่อจบครึ่งแรก ในกครึ่งเวลาหลังนั้น ต่างฝ่ายต่างเริ่มทะยอยเปลี่ยนตัวผู้เล่น ซึ่งถึงแม้จะเป็นนัดชิงฯ แต่ก็ยังอยู่ในช่วงพรีซีซั่นที่กำลังเตรียมสภาพร่างกายของผู้เล่นให้กลับมาฟิตเต็มร้อย ก็เลยทำให้รูปเกมอาจจะลดดีกรีความเข้มข้นลงไปแต่ก็ยังมีโอกาสสวยๆ จากลูกจักรยานอากาศของ มาร์โค กรูจิคแต่ในที่สุด สำหรับท่านใดที่สนใจสามารถขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ contact@lfcthailand.com |
||||||||||||||||||||||||||||||
Back.... |
---|